Tuesday, August 27, 2013

การใช้ IT มาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจการค้าสำหรับจังหวัดอุบลเพื่อรองรับกลุ่มประเทศอาเซียน(ASEAN)

ประเทศไทยถือเป็น 1 ประเทศประเทศในทั้งหมด 10 ประเทศ ที่อยู่ในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย
1. บรูไนดารุสซาลาม
2. ราชอาณาจักรกัมพูชา
3. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
4. ประเทศมาเลเซีย
5. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
6. สาธารณรัฐสิงคโปร์
7. ประเทศอินโดนีเซีย
8. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
9. สหภาพพม่า
10. ประเทศไทย

ในสภาวะแห่งยุคทุนนิยม ที่เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับประเทศต่าง ๆ นั้นอยู่รวมกันเป็นสังคมโลก ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ จึงต้องมีการรวมตัวกันของประเทศในแต่ละภูมิภาคเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมและพัฒนาประเทศในภูมิภาคไปพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน จึงได้มีข้อตกลงให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชนหรือประชาคมเดียวกันให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2558 จังหวัดอุบลเองก็เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้น โดยมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการดำเนินงานต่าง ๆเพื่อรองรับดังนี้



1. ทำเว็บไซด์ท่องเที่ยวอุบลเพื่อแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ของจังหวัดอุบลฯ พร้อมแผนที่และค่าใช้จ่าย โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
2. ทำเว็บไซด์นำเสนอสินค้าประจำจังหวัดไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค หรือ บริโภค สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
3. ทำเว็บไซด์สมัครงานของจังหวัดอุบลเพื่อให้แรงงานที่เข้ามา สามารถที่จะค้นหางานในจังหวัดอุบลได้ง่ายและสะดวก โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
4. ทำเว็บไซด์นำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม แสดงความเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดอุบลให้ประเทศอาเซียนที่เข้ามาได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งทำเป็นวิดีโอผ่าน Youtube ในการนำเสนอข้อมูลด้วย
5. ทำเว็บไซด์ให้ข้อมูลห้องพัก โรงแรม คอนโด และ บ้านเช่า เพื่อรองรับกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเข้าพักอาศัยและสามารถทำการจองผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
6. ทำเว็บไซด์แนะนำข้อมูลเส้นทางการเดินรถด้วยบริการขนส่งมวลชน ทั้งของเอกชน และรัฐ เพื่อประเทศกลุ่มอาเซียนสามารถที่จะเดินทางได้ด้วยรถประจำทางของจังหวัดอุบล โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
7. ทำเว็บไซด์แนะนำสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา สถานที่ราชการ ธนาคาร โรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อมีเหตุจำเป็นต้องไปสถานที่เหล่านั้น โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
8. ทำเว็บไซด์รับแจ้งเหตุ หรือ ปัญหา การร้องเรียนต่าง ๆ สำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น โดยให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
9. เปิดกลุ่ม Facebook เพจ ในแต่ละTopic ที่สำคัญ ๆ เพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างคนในจังหวัดอุบลและกลุ่มประเทศอาเซียน
10. ส่งเสริมและให้ความรู้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านช่องทาง Internet ให้กับคนในจังหวัด เพื่อขยายโอกาสการขายสินค้ามากขึ้น

Saturday, August 17, 2013

ความหมายและความแตกต่างระหว่าง IS และ IT

ความหมาย

IS (Information System) คือ ระบบสารสนเทศที่ประกอบด้วยกลุ่มคน กระบวนการ และทรัพยากร(Hardware, Software, Database) ที่มีการเก็บรวบรวมและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการประมวลผลข้อมูลเพื่อเป็นสารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน การตัดสินใจ การวางแผน การบริหาร การควบคุม การวิเคราะห์และติดตามผลการดำเนินงานขององค์กร ตัวอย่างเช่น ระบบการจองบัตรโดยสารเครื่องบิน ระบบการฝากถอนเงินอัตโนมัติ เป็นต้น

IT (Information Technology) คือ เทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ตัวอย่างเช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเครือข่าย ในการรับ-ส่งข้อมูลต่าง ๆไปยังเครื่องลูกข่าย


ความแตกต่าง

IT เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการข้อมูล จัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล ให้เป็นสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ ส่วน IS เป็นระบบสารสนเทศที่ประกอบด้วยหลาย ๆส่วนไม่ว่าจะเป็นกระบวนการ คน ข้อมูล โปรแกรม เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์สำหรับองค์กร


สรุป

IT ถือเป็นส่วนย่อย ๆ หรือ Subset ของ IS เนื่องจากระบบสารสนเทศมีการใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล ให้เป็นสารสนเทศเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ หรือ IS มีการนำ IT มาช่วยในการจัดการข้อมูลสารสนเทศนั่นเอง

Friday, August 9, 2013

หนังสือ IT น่าอ่านปี 56

1. คู่มือพัฒนาเเอพพลิเคชัน Android อย่างมืออาชีพ

 เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้การพัฒนาแอพพลิเคชัน Android บน  Smartphone และ Tablet สามารถประยุกต์ใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลแบบ 3 มิติ, การใช้งานกล้องถ่ายรูป, Bluetooth, Sensor, พัฒนาแอพพลิเคชันร่วมกับฐานข้อมูล, พัฒนาเกมขั้นสูง, และพัฒนาแอพพลิเคชันร่วมกับ Social Networks อย่าง Facebook เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาแอพพลิเคชันบน Android ในระดับมืออาชีพ

เหตุผล : เนื่องจากเป็นหนังสือที่มีประโยชน์ในด้านการเขียนโปรแกรม Application บน Android ซึ่งเป็น OS บนโทรศัพท์มือถือและ Tablet ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานเพิ่มขึ้นมาก และความต้องการ Application ก็มีสูง การเรียนรู้เพื่อพัฒนา Application จึงถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันและอนาคต








2. คู่มือ Windows Server 2012
 
หนังสือ "คู่มือ Windows Server 2012" เล่มนี้ ได้รวมความสามารถ แนวทางปฏิบัติในการติดตั้ง และกำหนดค่าต่างๆ ในการใช้งานแต่ละคุณสมบัติเอาไว้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลือกวิธีการนำเสนออย่างเป็นลำดับขั้นตอน พร้อมรูปภาพประกอบทำงานในการติดตั้ง และการตั้งค่าต่างๆ อย่างเป็นลำดับชนิดที่เรียกว่า Step by Step สำหรับคนที่ทำงานด้าน Administrator ไม่ควรพลาดเล่มนี้

เหตุผล เนื่องจากเป็นหนังสือที่อธิบายขั้นตอนการ config ค่าต่าง ๆได้เข้าใจง่าย มีรูปภาพประกอบชัดเจน อีกทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับ Windows Server 2012 ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทหลายแห่งก็ใช้ windows server ในการบริหารจัดการด้าน IT ขององค์กร








 3. เก่ง SEO ให้ครบสูตร คูณ 2 

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักสร้างสรรค์เว็บไซต์ทุกรูปแบบ ที่ต้องการศึกษาหรือเพิ่มความรู้เกี่ยวกับ SEO เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาใน Google.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ Search Engine ระดับสุดยอดของโลกกลไกการทำงานของระบบ Google Search Engine มีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จนหนังสือ SEO ที่มีอยู่ในท้องตลาด ที่พูดถึงกลไกการทำงานแบบเก่าตามไม่ทัน หนังสือเรื่องนี้จะอธิบายวิธีการทำงานของกลไกการจัดอันดับผลการค้นหาแบบใหม่ คือ Google Panda และ Google Penguin พร้อมทั้งแนะนำวิธีสร้างเว็บรองรับสมาร์ตโฟน/แท็บเล็ต ตลอดจน SEO แบบใหม่ที่เรียกว่า Mobile SEO และ Social Network SEO อีกด้วย

เหตุผล เนื่องจากปัจจุบันผู้ใช้งาน Internet ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาเว็บเพื่อรองรับจำนวนคนเหล่านั้น รวมทั้งการแข่งขันในการสร้างเว็บไซด์ก็ยิ่งมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งปัจจุบัน Google เข้ามาเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างผู้ใช้กับเจ้าของเว็บ ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ SEO(Search Engine Optimization) ก็ยิ่งมีความจำเป็นมาก เพราะหากเราทำเว็บแล้วไม่มีคนเข้ามันก็เหมือนเว็บร้าง ไม่สามารถที่จะนำเสนอให้คนภายนอกเห็นได้ หากไม่มีการทำ SEO ที่ถูกต้องด้วย